ประวัติ

ชื่อ ชลาทิศ ตันติวุฒิ (เบน)

วันเกิด 28 กรกฎาคม 2524 (ปัจจุบันอายุ 32 ปี)

การศึกษา ปริญญาตรี จาก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล

จุดเริ่มต้นของการเป็นนักร้อง เริ่มมาจากสมัยเรียนมหาวิทยาลัยได้รวมตัวกับเพื่อนๆ ตั้งวงดนตรีที่ชื่อว่า “MONOTONE” ทำเพลงเป็นที่รู้จักของกลุ่มคนอินดี้เล็ก ๆ โดยมีเพลงดังอย่าง Celebration

ต่อมา ปี 2545 BEN ได้เป็นศิลปินในสังกัด Bakery Music หลายคนได้รู้จักเค้ามากขึ้นจากการได้ร่วม Featuring ในเพลงดังต่าง ๆ ของ
พี่บอย โกสิยพงษ์ เช่น ใกล้, คะแนนแห่งชีวิต , คนข้างล่าง

ปี 2547 BENยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก เมื่อเค้าได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Project ศิลปินเลือดใหม่ของ Bakery Music ที่ชื่อว่า B5 (สมาชิกประกอบไปด้วย BEN , โต๋ , เค้ก , มาเรียม ,คิว) มีเพลงร้องเดี่ยวที่ BEN ฝากเสียงไว้คือ รักคุณเข้าแล้ว

ปี 2548 มีอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรก ใช้ชื่อว่า “Ben-Chalatit “ มีเพลงดังอย่าง “คนที่คิดถึง” และในปีนั้น ก็ได้รับรางวัลศิลปินชาย ยอดเยี่ยม
จากคลื่นวิทยุ SEED AWARD

ปี 2549 อัลบั้มที่สอง ใช้ชื่อว่า Impression เป็นการหยิบเพลงดังในอดีต จากศิลปินข้ามค่ายมา Cover ใหม่ ให้กลับมามีสีสันมากขึ้น เช่นเพลง “สุดใจ” (พงษ์สิทธิ์ คำภีร์) , “ทำร้าย” ( โยคีเพลย์บอย)

ปี 2553 มี Single ชื่อว่า ดัม (ในที่สุด)

ล่าสุด ปี 2555 มี Single ออกมา ชื่อเพลงว่า “เพื่ออะไร”

ปี 2556 เบน ชลาทิศ กำลังจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเขาที่ชื่อว่าคอนเสิร์ต “Born To Be Ben Concert” วันที่ 5 ตุลาคม
ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

ถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดคอนเสิร์ตแห่งปี 2013 กับคอนเสิร์ต “Born to be BEN ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้”!!!

น้ำตาปริ่มอิ่มเอมกันไปแบบสุดๆกับงานคอนเสิร์ต “Born to be BEN ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้” ที่ เบน ชลาทิศ ด้พิสูจน์แล้วว่า “เบน” เกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ งานนี้หนุ่ม ”เบน ชลาทิศ ตันติวุฒิ” พกมาทั้ง ความสุข ความแซ่บ(มาก!) ความเริ่ด เชิ่ด อร่อย! ได้เป็นอย่างที่สุด นอกจากนั้นแล้วแขกรับเชิญที่มาเรียกได้ว่าไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลสุดยอดแห่งคุณภาพในวงการเพลงที่พากันมาจัดเต็มเพื่องานนี้เลยก็ว่าได้ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานคอนเสิร์ตที่เรียกได้ว่าใครพลาดไปต้องเสียดายกันจริงๆ

เปิดฉากมาอย่างสวยงามด้วยความวิ้งวับประทับใจกับ ฉากเบื้องหลังที่ฉายกราฟฟิกรูปเพชรเม็ดโตมาพร้อมท่าทางสุดพลิ้วไหวการันตีความแซ่บในเพลง DIAMOND ก่อนจะมันส์กันต่อด้วยเพลง Born This way ที่ลีลาของเบนเรียกได้ว่า Rihanna ต้องชิดซ้าย LADY GAGA หลบขวา ถือเป็นการบ่งบอกความเป็นตัวตนของเบนสุดๆว่า ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ด้วยท่วงท่าที่จัดเต็ม! หลังจากนั้นความสนุกก็ดำเนินต่อแบบ Non-stop เมื่อเบนได้นำเพลงสุดฮิตมาร้องเมดเลย์ไม่ว่าจะเป็น เปิด, คนที่คิดถึง, คะแนนแห่งชีวิต และ ใกล้ ด้วยเสียงอันทรงพลัง กับโชว์ที่ตรึงใจทำให้เสียงปรบมือ ดังก้องต้อนรับเขาผู้นี้ “เบน ชลาทิศ” ตั้งแต่โชว์แรกทีเดียว

ความสนุกยิ่งตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อเพลงจังหวะเร้าใจอย่าง “เพื่ออะไร” บรรเลงขึ้น กลิ่นอายของแทงโก้ สนุกสนานชวนให้ขยับตัวเต้นรำ ก่อนจะปรากฎแขกรับเชิญคนแรก สุภาพสตรีผู้ยิ่งใหญ่ในวงการเพลงอย่าง “รัดเกล้า อมระดิษ” ที่งานนี้ขอเปิดตัวด้วยการแด๊นซ์สเต็ปเทพ แทนที่จะเป็นการร้องเพลง ซึ่งถือเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ และแน่นอนโชว์นี้ทำให้คนดูไม่ผิดหวัง เมื่อสุดยอดพลังเสียงมารวมตัวกัน เสียงประสานราวกับดินและน้ำก็ขับขานบทเพลงไพเราะที่ตราตรึงทุกโสตประสาทอย่าง “The prayer” ให้สะกดคนดูได้ทุกหัวใจ

ต่อจากนั้นเบนก็ได้ย้อนความทรงจำกับไปในอัลบั้มแรกด้วยเพลง “เพราะฉันยังรัก” หนึ่งเพลงที่แต่งจากประสบการณ์ความรักครั้งแรกของเบนที่ไม่ค่อยได้นำมาร้องบ่อยๆ แต่ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่พิเศษเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ยินเพลงๆนี้จากเขา และความเศร้ายังไม่หมดเมื่อเขาต่อด้วยเพลง ”คืนใจ” ในอัลบั้มชุดที่สอง ก่อนจะพาคนดูโบยบินไปสู่ช่วงอะคูสติกที่แสนนุ่มนวล และเป็นกันเองอย่างยิ่ง เพราะเบนกล่าวติดตลกกับคนดูว่า “จะขอเพลงอะไรก็ได้ขอมาเลย แต่ต้องมีในลิสต์ที่เบนเตรียมมานะ” เรียกเสียงฮากันทั้งฮอลล์ เปิดช่วงนี้ด้วยเพลงสุดฮิตของบอย โกสิยพงษ์ อย่าง ”ห่างไกลเหลือเกิน” ต่อด้วย “รักของเธอมีจริงหรือเปล่า” รวมไปถึง “ฉันดีใจที่มีเธอ” งานนี้ได้ ต๋อง-อภิชา สุขแสงเพ็ชร และวุฒิ วงษ์สรรเสริญ มาร่วมร้องคอรัส และส่งเสียงกีต้าร์เบาๆให้เราได้ชิวกัน

และถือเป็นช่วงไฮไลท์แรก เมื่อเบนได้หยิบเพลงที่เขาคัฟเวอร์ และฮิตไปทั่วยูทูปด้วยลีลากินขาดที่หุ่นไม่ใช่อุปสรรคในการแสดงสุดจี๊ดในเพลง “เสียใจแต่ไม่แคร์” ก่อนที่จะเรียกเสียงกรี้ดกระหื่มลั่นฮอลล์เมื่อแขกรับเชิญสุดพิเศษที่หลายคนรอคอยการปรากฎตัวของเขา “ออฟ ปองศักดิ์” มาพร้อมเพลง “ไม่รักไม่ต้อง” ที่ร้องประสานได้ไพเราะอย่างกินกันไม่ลง แถมลีลาวาดขาไมค์กับลูบไล้แผงอกแบบแซ่บสุดก็ทำเอาคนดูยิ้มไม่หุบ ก่อนจะปิดท้ายเพลงด้วยท่าจบแบบคิขุ เมื่อเบนเปิดตัวว่าเขาคือ “เซเลอร์วีนัส ตัวแทนแห่งดวงจันทร์จะลงทันแกเอง” ฮา กรี๊ดกันกระหน่ำฮออล์แบบจี้ดสุดใจ ความฟินยังไม่จบแค่นั้น เมื่อเบนเผยเรื่องราวความรักอันไม่สมหวังของออฟ “มีล้านให้ล้าน” แซวกันซะเลือดซิบๆ เสียงหัวเราะจากคนดูดังอย่างต่อเนื่องเมื่อสองฝีปากจิกกันในเรื่องความเศร้าของแต่ละฝ่าย ก่อนจะร่วมกันจับไมค์กระชากอารมณ์คนดูกระทันหันด้วยเพลงเรียกน้ำตาอย่าง “แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ” ที่ทั้งสองถ่ายทอดคำว่า “อยากตาย” ในท่อนสุดท้ายได้แทบขาดใจจริงๆ

อีกหนึ่งแขกรับเชิญที่พิเศษไม่แพ้กัน เมื่อเบนขับร้องเพลง “สุดใจ”จบ เจ้าของเพลงอย่าง ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ก็มาร่วมขับร้องเพลงพร้อมกีต้าร์คู่กายด้วยเพลง “มาตามสัญญา” และ อีกเพลงที่ผู้ชมร้องตามได้ทั้งฮอลล์กับเพลง “ตลอดเวลา” เบนกล่าวว่าปูถือเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่อยากให้เขาทำงานร้องเพลง

ความสนุกยังไม่จบเพียงเท่านั้น อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เก๋ไก๋ไฉไลไม่แพ้กัน เสียงกรี๊ดดังมาก! เมื่อสาวใหญ่เสียงหวานจับใจ อย่าง “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” ในชุดสีทองขับลูกไม้ดำเดินกรีดกรายออกมาอย่างงดงาม พร้อมภาพฉากหลังที่ดูเหมือนพระราชวังอลังการดาวล้านดวงแบบสุดๆ ในพลง “ชั่วฟ้าดินสลาย” บรรยากาศ กับบทเพลงไพเราะพร้อมทั้งชุดที่เบนเลือกให้ดูเข้ากันจนเจ้าตัวสารภาพว่า อดรู้สึกนึกว่าตัวเองเป็นนางงามกำลังจะอำลาตำแหน่งไม่ได้! แถมท้ายความฮาเมื่อเบนย่อตัวลงรอรับตำแหน่งนางงามคนใหม่ ก่อนจะบอกเริ่ดๆว่า “ปีนี้เป็นปีของน้อง” ได้เก๋สุดๆ ความฮายังไม่สุดแค่นั้น จากที่คนดูคาดหวังว่าจะต้องเจอสองผู้ยิ่งใหญ่พ่นไฟใส่กัน แต่พลิกโผเมื่อเพลงที่เบนเลือกมาร้องคู่กับเจนนิเฟอร์ คิ้มในวันนี้กลับเป็นเพลงรักหวานกุ๊กกิ๊กปนหยอกเอินในยุคเก่าอย่าง “จูบเย้ยจันทร์” มาเกี้ยวกับคิ้มได้อย่างน่ารักสนุกสนานปนเสียงหัวเราะที่คิ้มแทบจะกลั้นไม่ไหว ด้วยท่อนร้องที่สลับเพศกัน แถมท้ายด้วยเสียง“ว๊าย! ดูสิช้ำไปเป็นกอง” ของเบน ชลาทิศ ที่จัดมาเต็มแบบไม่มีกั๊ก! งานนี้เรียกได้ว่าทั้งขำ ทั้งอบอุ่นและเป็นกันเองสุดๆ

ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เสียงกรี๊ดดังขึ้นอีกครั้งแบบระดับเดซิเบลที่ไม่เป็นรองใครเมื่อ ธนชัย อุชชิน หรือ ป๊อด โมเดิร์นด๊อก ออกมาฟีทเจอริ่งในเพลงรักอย่าง “รักคุณเข้าแล้ว และรักคุณเข้าอีกแล้ว” ที่นอกจากเสียงที่ถ่ายทอดออกมาแบบสุดพลังแล้ว การแสดงที่ถ่ายทอดออกมายังบีบอารมณ์คนดูขึ้นจนถึงจุดที่พีคแล้วระเบิดขีดสุดของอารมณ์ออกมาแบบที่เรียกได้ว่ามันส์สุดยอดจริงๆ จนป๊อดต้องเอ่ยปากว่าไม่เคยร้องกับใครแล้วมันส์ขนาดนี้มาก่อนเลย และเชื่อได้เลยว่าจากที่การแสดงที่ผ่านไปสิ่งที่ผู้ชมได้เห็นนั้นก็ทำให้รู้สึกไม่ต่างกัน

ต่อกันด้วยสองเพลงชาติที่เป็นไปตามคาดว่าจะได้เห็นเบนร้อง อย่าง เพลง “I will survive” และ “One night only” แสงไฟระยิบระยับจับตาใน One night only ทำให้เบนดูโดดเด่นมากขึ้นท่ามกลางแสงไฟ ก่อนจะปล่อยพลังมากมายใส่คนดูให้ลุกขึ้นขยับแข้งขยับขาตามเสียงเพลง

แขกรับเชิญแก๊งสุดท้าย แต่ความสนุกยังไม่ท้ายสุด ความฮาเพิ่มดีกรีไปถึงจุดพีค เมื่อหมู่คณะแห่ง B5 ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในภาพลักษณ์ใสๆจับใจสาวๆกับเพลงเบาๆ ของ DOJO CITYไม่ว่าจะเป็น อย่าเข้าใจฉันผิด”ที่ได้ เค้ก กับ มาเรียมมาส่ายสะโพกแด๊นซ์กระจายแบบเป็นตัวเองสุดๆ ที่น่าตกใจไปยิ่งกว่านั้นเห็นจะเป็นขาร๊อค อย่างคิว สุวีระ ที่คราวนี้หันมาเปลี่ยนแนวหยิบเพลง “อ้วน” มาร้องแบบคิ้วๆ งานนี้ก็ไม่รู้ว่ามีนัยยะแอบแฝงหรือเปล่า แต่ที่รู้ได้ชัด คือวันนี้ คิว ในชุดสูทแดงเปรี้ยวได้ใจ กับเพลงใสๆที่เสี่ยงต่อการเข้าใจผิด! จนเบนต้องรีบออกมาแก้ตัวให้ว่า “ถึงแม้คิวจะร้องเพลงกันและกัน แต่คิวก็ไม่ได้เป็นนะ!” และอีกหนึ่งหนุ่มที่เรียกเสียงกรี๊ดได้จัดเต็มที่สุดเห็นทีจะเป็น โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ ที่ปกติแล้ว เมื่อเห็น โต๋ เปียโนต้องอยู่ข้างกาย แต่วันนี้ โต๋ เปลี่ยนไปเมื่อสิ่งที่อยู่ข้างกายกลายเป็น “ผ้าสีเหลือง” ที่มาพร้อมกับเพลงจีบหนุ่มที่แสนน่ารักอย่าง “ผ้าเช็ดหน้า” งานนี้ทั้งเบน และโต๋ โบกไปโบกมา วิ่งเล่นเป็นเด็กน้อยพร้อม และ

ดูเบนจะร่าเริงเป็นพิเศษที่ได้ “ทิ้งผ้าเช็ดหน้า” รอให้โต๋มาเก็บ ภาพลักษณ์ที่แปลก แหวก แบบไม่ใช่แนวบีไฟว์ ได้โชว์เรียกน้ำย่อยกันไปแล้ว โชว์ต่อมาถือเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ในวงการเพลง R&B ยิ่งนัก และถือเป็นบทพิสูจน์มิตรภาพอย่างแท้จริง เมื่อหนุ่มร๊อกเกอร์อย่างคิว หนุ่มชิวๆอย่างโต๋ สาวเสียงหวานอย่างมาเรียม และ หนุ่มอาร์แอนด์บีอย่างเค้ก จะเปลี่ยนแนวแบบพลิกโผเซอร์ไพส์คนดูจนนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้เมื่อบีไฟว์ จับไมค์ร้องเพลง“แน่นอก” และ “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร”!!! ที่เรียกได้ว่าถ้าไม่ใช่ คอนเสิร์ตของ เบน ชลาทิศ ภาพแบบนี้คงหาดูได้ยากทีเดียว!

และช่วงสุดท้ายก็มาถึง เมื่อความสนุกเฮฮา ขำจนกรามค้างทั้งคอนเสิร์ตผ่านพ้นไปก่อนจะจบเบน ชลาทิศส่งท้ายด้วยข้อคิดที่เป็นแรงบันดาลใจจนทำให้เขามีทุกวันนี้ด้วยคำกล่าวที่ว่า “ใครก็ตามที่มีความฝัน ให้ยึดมั่นความฝัน และพัฒนามันไปเรื่อยๆ และเมื่อวันนึงที่มีโอกาส คุณจะเป็นคนที่เหมาะสมกับสิ่งนั้นที่สุด” ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลงพิเศษที่เขาเลือกมาร้องให้กับคนที่เขารัก และรักเขา ด้วยเพลง “เพลงจากคนผิดหวัง” ซึ่งถือว่าเป็นเพลงจบที่ไพเราะมีสะกดและตราตรึงคนฟังได้อย่างมากที่สุด เสียงปรบมือกึกก้อง พร้อมรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ รวมถึงภาพประทับใจที่เชื่อว่าใครหลายคนคงจะเก็บเป็นความทรงจำที่แสนวิเศษไปอีกแสนนาน เพราะงานนี้ เบนได้พิสูจน์แล้วว่าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ.