logo BEC-TERO  |
                                                                                                                                                                                                                                                            ไม่มีใครอยู่ตัวคนเดียว เราต่างเชื่อมโยงถึงกันผ่านความสนใจ ความคิด ตัวตนและแรงบันดาลใจของกันและกัน ความบันเทิงเชื่อมโยงถึงกัน มันจุดประกายความต้องการในตัวเรา ความต้องการของพวกเราเชื่อมโยงเราถึงกัน เราสร้างสรรค์ความบันเทิง เราสนับสนุนการเชื่อมโยง ทุกการเดินทางเริ่มจากก้าวเล็กๆเพียงก้าวเดียว ท้าทายตัวเองให้เติบโต ในขณะที่คุณออกผจญภัยในการทางเดินของชีวิต ใช้ความปรารถนาเป็นเข็มทิศนำทาง และใช้ความฝันเป็นแผนที่ชีวิต แล้วหัวใจจะนำทางคุณไปเอง ความท้าทายกลายเป็นเพียงอุปสรรคเล็กน้อยที่เราจะผ่านไปได้ เมื่อคุณมีแรงบันดาลเป็นผู้ช่วยนำทาง ผลักดันตัวเอง คุณอาจจะรู้สึกปลอดภัยถ้าเลือกทำในสิ่งที่เรียบง่าย แต่บางครั้งความสุขที่คุณใฝ่หาอาจหาพบได้ในที่ๆเสี่ยงอันตรายที่สุดก็ได้ ในแต่ละวัน ลองทำในสิ่งที่คุณไม่กล้าทำดู
"; exit; } ?>

Room39
Mon 10/06/2013
Event Bridgestone road show @ Central Plaza Pattaya

Flure
Wed 12/06/2013
Pub Brick Bar @ ถนนข้าวสาร

Gail TGT
Thu 13/06/2013
Event Milk Fesitval 2013 @ The Mall บางแค

Stamp
Thu 13/06/2013
Pub ร้าน ป1/2 @ จ.ตราด

Armchair
Fri 14/06/2013
Pub U Bar @ โคราช

Sugar eyes
Sun 16/06/2013
Event Doraemon Event 2013 @ เซ็นทรัล พิษณุโลก



 
 
 
Our Official Hotel Partner
 
 
 
กิจกรรมเพื่อการกุศลและ
โครงการเพื่อสังคม
 

 
ระเบิดความมันส์ประเดิมปี 2553 กับสุดยอดวงพั้งค์ร็อคแห่งยุคใน
“สิงห์ พรีเซ้นท์ส กรีนเดย์ ไลฟ์ อิน แบงค็อค”
(18/11/09)
[ENG]
 
 
 


 
 ** โอกาสพิเศษ สำหรับแฟนตัวจริง 30 คนเท่านั้น! ที่จะได้ชมการซ้อมอุ่นเครื่องก่อนไปมันส์กับ คอนเสิร์ตจริง **

     เพียงนำ บัตรคอนเสิร์ตในมือ มาลงทะเบียนที่หน้างาน ณ บูท บีอีซี เทโร ตั้งแต่เวลา บ่ายสามโมงเป็นต้นไป
     งานนี้มาก่อนมีสิทธิ์ก่อน...

 

     สิงห์ คอร์เปอเรชั่น และ บีอีซี-เทโร ชวนเหล่าสาวกวงพั้งค์ค์ร็อคระดับโลกร่วมระเบิดความมันส์กับสุดยอดคอนเสิร์ตร็อคประเดิมปีเสือ กับ สิงห์ พรีเซ้นท์ส กรีนเดย์ ไลฟ์ อิน แบงค็อค ในวันที่ 12 มกราคม ณ อิมแพคอารีน่า เมืองทอง ธานี

     สุดยอดวงพั้งค์ร็อคแห่งยุค 90 ที่เคยทำให้ เอ็มบีเค ฮอลล์ เกือบถล่มมาแล้วเมื่อปี 2539 กับคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยของพวกเขา 14 ปีผ่านไป กรีนเดย์ (Green Day) เติบโตและยิ่งใหญ่กลายเป็นวงร็อคแนวหน้าของโลก พวกเขาจะกลับมาสร้างปรากฏการณ์ร็อคคอนเสิร์ตในบ้านเราอีกครั้ง พร้อมถล่มอิมแพคอารีน่ากับ เทว็นตี้ เซ็นจูรี่ เบรคดาวน์ ทัวร์ (21st Century Breakdown Tour) เวิลด์ทัวร์ต้อนรับผลงานใหม่ล่าสุด เทว็นตี้ เซ็นจูรี่ เบรคดาวน์ (21st Century Breakdown) ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและกำลังเดินทางออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกอยู่ในขณะนี้

     กรีนเดย์ วงร็อคชั้นนำจากอเมริกาประกอบด้วยสมาชิก 3 คนคือ  บิลลี่ โจ อาร์มสตรอง (Billie Joe Armstrong) - กีตาร์, ร้องนำ, ไมค์ เดิร์นท ( Mike Dirnt) - เบส และ  เทร คูล (Tré Cool) - กลอง    เริ่มฟอร์มวงตั้งแต่ปี 1987  ออกผลงานมาแล้วทั้งหมด 11 อัลบั้ม ปัจจุบันมียอดขายอัลบั้มทั่วโลกมากกว่า 60 ล้านชุด และได้รับรางวัลแกรมมี่ 3 ครั้ง คือ สาขาผลงานอัลเทอเนทีฟยอดเยี่ยม (Best Alternative Album) จากอัลบั้ม ดอกกี้ (Dookie), รางวัลอัลบั้มเพลงร็อคยอดเยี่ยม (Best Rock Album) จากอัลบั้ม อเมริกัน อิเดียท(American Idiot) และสาขาการบันทึกเสียงยอดเยี่ยม (Record of the Year) จากเพลงบูเลอวาด ออฟ โบรคเค็น ดรีมส์ (Boulevard of Broken Dreams) ล่าสุดกรีนเดย์เพิ่งได้รับรางวัลเอ็มทีวี มิวสิควิดีโอเพลงร็อคยอดเยี่ยมจากเพลง 21 กันส์ (21 Guns)

     สาวกกรีนเดย์ในเมืองไทยเตรียมซ้อมร้องเพลง 21 กันส์ (21 guns), โนว ยัว เอนิมี (know your enemy), เวค มี อัพ เว็น เซ็บเทมเบอร์ เอ็นส์ (wake me up when September ends), ชี (She) ฯลฯ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับความมันส์ระดับโลกได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์   บัตรราคาราคา 800 / 1,500 / 2,000 / 2,600 บาท   สอบถามสิทธิพิเศษและส่วนลดได้ที่ 02-262-3456 www.thaiticketmajor.com  


 

 

 
สถานที่จัดการแสดง :
อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
วัน/เวลาแสดง :
วันอังคารที่ 12 มกราคม 2553
เวลา 20.30 – 22.30 น.
ราคาบัตร :
800 / 1,500 / 2,000 / 2,600 บาท
สถานที่จำหน่ายบัตร :
บูธไทยทิคเก็ตเมเจอร์
ไปรษณีย์ไทย 52 สาขา กรุงเทพฯ และปริมณฑล
และจุดจำหน่ายตั๋วของเมเจอร์ และอีจีวี
สอบถามรายละเอียด :
 0-2262-3456
และ
www.thaiticketmajor.com
official website : www.greenday.com
     
 

About Green Day

ก่อนที่ Green Day จะมาเป็น Green Day ได้ในทุกวันนี้ใครจะรู้ว่าพวกเขาทั้ง 3 คนได้ผ่านอะไรมามากต่อมาก ทั้งปัญหาครอบครัว คำวิจารณ์จากเหล่าพวกพ้อง  แฟนเพลง เหล่านักวิจารณ์ดนตรี แต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและได้ฟันฝ่าปัญหาทั้งหลายจนมายืนหยัดในจุดนี้ได้   เรื่องทั้งหมดมันเริ่มขึ้นเมื่อ Billie Joe และ Mike Dirnt ได้ตั้งวง "Sweet Children" ขึ้นเมื่อขณะได้อายุเพียง 14 ปี พวกเขาทั้งสองเป็นเพื่อนกันในสมัยเด็กและเรียนโรงเรียนเดียวกันมา ทั้งสองแชร์รสนิยมดนตรีที่คล้ายกันและด้วยนิสัยที่ใกล้เคียงกันอีกจึงทำให้ Mike และ Billie เป็นเพื่อนสนิทกันได้ในเวลาอันรวดเร็ว   พวกเขาทั้ง 2 ในวัยเด็กไม่เหมือนใครคนอื่น  มีเพื่อนไม่มากนัก ด้วยนิสัยที่เงียบและเก็บตัว พวกเขาจึงใช้เวลาส่วนมากไปกับดนตรีและการแต่งเพลง
ทั้ง Mike และ Billie หลงไหลในเสียงเพลง Heavy Metal และดนตรี Punk จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนของเขาคนอื่นแนะนำให้ Sweet Children รู้จักกับคลับเล็กๆแห่งหนึ่งชื่อว่า 924 Gilman Street Club ซึ่งเป็นคลับที่วงพังค์และเหล่าพังค์ทั้งหลายไปรวมตัว และเล่นดนตรี แต่การเล่นดนตรีในที่นี้เป็นการเล่นเพื่ออุดมการณ์ที่แท้จริงของพังค์
ทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับการหาเงินเข้ากระเป๋าแต่อย่างใด วง Sweet Children จึงไปเล่นที่นั่นเป็นครั้งแรก และครั้งแรกที่พวกเขาปรากฎตัวมีเพียงคนดูไม่ถึง 10 คนเท่านั้น

แต่วง Sweet Children ก็เล่นอย่างเต็มที่และสุดความสามารถโดยไม่สนใจว่าพวกเขาจะมีคนดูกี่คนก็ตาม หลังจากนั้นเป็นต้นมา Sweet Children ก็เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดก็เปลี่ยนชื่อวงเป็น Green Day พร้อมกับได้ออกอัลบั้มแรก 1,039 Smoothed Out Slappy Hours กับค่าย Lookout และออกอัลบั้มที่ 2 Kerplunk ในปีถัดมา ซึ่งทำลายสถิติอัลบั้มที่มียอดขายสูงที่สุดของค่าย Lookout ทำให้ Green Day มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่ "Underground Punk scene" เป็นอย่างมาก

ด้วยความโด่งดังของ Green Day กับค่ายเล็กๆอย่าง Lookout ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาเลื่องลือไปถึงค่ายเทปใหญ่หลายแห่งซึ่งต่างก็พยายามมาติดต่อ Green Day ให้เซ็นสัญญาด้วยโดยหวังว่าจะได้วงนี้ไปเป็น "The next big thing" ของวงการเพลง แต่ Green Day ไม่เคยสนใจในชื่อเสียงเงินทองและความร่ำรวยจึงปฎิเสธสัญญาจากค่ายเพลงดังๆทั้งหลายครั้งแล้วครั้งเล่าพวกเขาทั้งสามคนคงความเป็นวงพังค์และยึดถือสโลแกน DIY : Doing It Yourself เรื่อยมา พวกเขาขายเทปแต่ละม้วนได้ด้วยลำแข้ง

ของพวกเขาเองและอาศัยคำพูดแนะนำจากแฟนเพลงปากต่อปากเท่านั้น พวกเขาเดินสายทัวร์ไปทั่วประเทศ ซึ่งก็ได้ช่วยเพิ่มยอดขายอัลบั้ม Kerplunk เป็นอีกหลายเท่าตัว จนกระทั่งวันหนึ่ง Rob  แห่งค่าย Reprise Record ยักษ์ใหญ่แห่ง Warner ได้ทำการติดต่อ Green Day ไปโดยหวังว่าจะได้พวกเขามาร่วมงานด้วย Rob ไม่เหมือนใครคนอื่น ที่เคยติดต่อพวกเขา Rob สนใจในดนตรีอย่างจริงจังและหลงใหลในดนตรีแนวพังค์ตลอดจนแชร์รสนิยมทางดนตรีที่เหมือนกับพวกเขา ทำให้ Green Day ถึงกับใจอ่อนและยอม เซ็นสัญญาด้วยประกอบกับค่ายเล็กๆ อย่าง Lookout ไม่สามารถตอบสนองกระแสความดังของ Green Day ได้อีกต่อไป  การตัดสินใจเซ็นสัญญากับค่ายใหญ่ในครั้งนี้ได้สร้างปัญหา  มานับไม่ถ้วนให้แก่พวกเขา และถูกตราหน้าเป็นครั้งแรกว่า "ผู้ทรยศ" และ "Sellouts"

แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม พวกเขาไม่เคยภูมิใจกับผลงานในอัลบั้ม Insomniac เลย เพราะสิ่งที่พวกเขาทำงานคือการ "พิสูจน์" ตัวเองเพื่อให้คนอื่นยอมรับพวกเขาว่ายังคงเป็นวงพังค์เหมือนที่ พวกเขาเคยเป็นมาก่อน  การทำเช่นนี้ทำให้กรีนเดย์ตกอยู่ในภาวะแห่งความสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง พวกเขายกเลิกเดินสายทัวร์เกือบทั้งหมด เพราะพวกเขาไม่ต้องการ "เสแสร้ง" ทำในสิ่งที่เขาไม่ใช่และพวกเขาก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องพิสูจน์ตัวตนของพวกเขาให้กับคนอื่น หลังจากนั้นเป็นต้นมา กรีนเดย์ก็ไม่เคยสนใจคำวิจารณ์จากเหล่าแฟนเพลงหรือนักวิจารณ์ใดๆก็ตาม พวกเขาสร้างดนตรีเพื่อพวกเขาเองเท่านั้น เขาทำในสิ่งที่เขาอยากทำ  และยึดมั่นในหลักการของตนเองโดยไม่สนใจกฎเกณฑ์ใดๆทั้งสิ้น ด้วยความเชื่อนี้ กรีนเดย์จึงออก

อัลบั้มถัดมาชื่อว่า Nimrod ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกที่พวกเขาเริ่มทดลองซาวน์ใหม่ๆโดยไม่สนใจว่าทำแบบนี้จะ "พังค์" หรือ "ไม่พังค์" และพวกเขายังปล่อยซิงเกิ้ลขายดีตลอดกาลของพวกเขา "Good Riddance" ที่ช็อกวงการพังค์ร็อคเลยทีเดียว เพลงนี้เป็นบัลลาดเศร้าจับใจ เนื้อหาเพลงพูดถึงการตัดสินใจในชีวิตเมื่อมาถึงทางแยกของชีวิตแล้วเมื่อการตัดสินใจครั้งนั้นผ่านพ้นไปแล้วไม่ว่าจะดีหรือร้าย ผลของการตัดสินใจนั้นคือสิ่งที่ถูกต้องเสมอ บางครั้งคนเราไม่สามารถทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ แต่ท้ายที่สุดผลลัพธ์คือสิ่งที่คนๆนั้นต้องอยู่กับมัน   ส่วนเรื่องในอดีตนั่นก็จะกลายเป็นแค่ช่วงเวลาเก่าๆที่ฝังลึกไว้เพียงแค่ความทรงจำเท่านั้น กรีนเดย์ปล่อยซิงเกิ้ล Good Riddance เพื่อกล่าวอำลาแฟนเพลงพังค์ในยุดแรกๆของพวกเขา ว่าเขาไม่สนใจอีกต่อไปว่าแฟนๆ เหล่านั้นจะหันหลังให้กลับกรีนเดย์หลังจากที่กรีนเดย์เซ็นสัญญากับค่ายใหญ่ เขาเขียนเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อบอกลาแฟนๆในยุคนั้นเป็นนัยๆว่าเขาจะลืมอดีตทิ้งให้หมดและมันจะเป็นเพียงแค่ความทรงจำเท่านั้น ต่อไปนี้พวกเขาจะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าและไม่สนใจและยึดติดกับคำว่า "พังค์" อีกต่อไป ...

ในปี 2000 กรีนเดย์ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับอัลบั้มใหม่ Warning คราวนี้พวกเขาอยู่ในวัยเกือบ 30 และไม่ใช่เด็กๆที่ร้องเพลงเกี่ยวกับ Longview หรือ Basket Case อีกต่อไป ในอัลบั้มนี้พวกเขาทั้ง 3 โปรดิวซ์อัลบั้มด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกหลังจากงจากอัลบั้ม 1039/ Smoothed Out Slappy Hours โดยปราศจาก Rob คู่ซี้ และเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่กรีนเดย์ทดลองซาวน์ใหม่ โดยไม่คำนึงถึงอดีตและกฎเกณฑ์ของ "พังค์" พวกเขานำกีตาร์แบบอคูสติกมาใช้เป็นหลัก มีการใช้เครื่องดนตรีหลากหลายมากขึ้น จึงทำให้ซาวน์โดยรวมอ่อนลงกว่าเมื่อก่อนมาก อีกทั้งความหมายโดยรวมของอัลบั้มยังให้แง่คิดดีๆในแง่บวก ต่างจากอัลบั้มเก่าๆ มากทีเดียว แต่ถึงอย่างไรก็ตามกรีนเดย์ยังคงความเป็นกรีนเดย์ไว้ด้วยความหมายแบบประชดประชันเสียดสีสังคมอย่างเช่นในเพลง Warning, Minority หรือ Fashion Victim และเพลงทุกเพลงก็ยังคงติดหูผู้ฟังซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของกรีนเดย์เลยทีเดียว อัลบั้ม Warning ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนกลุ่มใหม่และเหล่านักวิจารณ์เพลง เพราะอัลบั้มนี้ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาทั้ง 3 คนได้โตขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้ว และมีศักยภาพมากกว่าการทำเพลงพังค์ 3 นาทีซ้ำไปซ้ำมา อัลบั้มนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีในแง่ของความคิดสร้างสรรค์และความพยายามของวง แต่ถึงอย่างนั้นอุปสรรคก็ยังถามหาพวกเขาไม่เลิกรา แฟนๆ ยุคเก่าถึงกับส่ายหน้าหนีกับอัลบั้มนี้ทันที พร้อมกับบอกว่าอัลบั้มนี้คืออัลบั้มที่แย่ที่สุดที่
พวกเขาเคยสร้าง และอัลบั้มนี้เองที่น่าจะเป็นจุดจบของวงกรีนเดย์เลยทีเดียว

แต่นั่นไม่ใช่จุดจบของกรีนเดย์อย่างแน่นอน พวกเขาไม่เคยสนใจว่าใครจะคิดยังไงเกี่ยวกับผลงานของพวกเขา เขาสร้างเพลงเพื่อความพึงพอใจของตนเอง ไม่ใช่เพื่อแฟนเพลง นักวิจารณ์ หรือคนอื่นใด

พวกเขากลับมาอีกครั้งในปี 2004 หลังจากออกอัลบั้มรวมฮิตและ B-sides ภายใต้ชื่ออัลบั้มใหม่เอี่ยมว่า American Idiot ซึ่งทำยอดขายได้เกินกว่า 5 ล้านตลับในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น นับเป็นสถิติที่เหลือเชื่อเลยทีเดียว อัลบั้มนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากแฟนกลุ่มเก่าๆและนักวิจารณ์ อีกทั้งยังสามารถเจาะตลาดกลุ่ม Pop Culture ได้อย่างเดินความคาดหมาย และยังได้รับรางวัล แกรมมี่สาขาอัลบั้มร็อคยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย พวกเขาเดินสายทัวร์โปรโมตอัลบั้มนี้ไปทั่วโลกและได้รับการตอบรับอย่างไม่น่าเชื่อ บัตรคอนเสิร์ตกว่า 75,000 ใบขายหมดในพริบตา ทัวร์แล้วทัวร์เล่าและพวกเขายังเป็นที่ต้องการในหลายๆประเทศอย่างต่อเนื่อง กระแสความดังของอัลบั้ม American Idiot ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้ง่ายๆ จนหลายคนกล่าวว่า ถ้าอัลบั้ม Nevermind ของ Nirvana
คืออัลบั้มที่มีอิทธิพลต่อวงการเพลงในช่วง 90 มันก็เป็นไปได้ว่า American Idiot ของ Green Day จะพลิกโฉมหน้าวงการเพลงร็อคในสหัสวรรษที่ 2000 เลยทีเดียว กระแสความแรงของ American Idiot กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ และกำลังจะแซงหน้าอดีตความดังของอัลบั้ม Dookie เมื่อ 11 ปีที่แล้วอย่างช้าๆ ทุกอย่างสำหรับกรีนเดย์ในยุคนี้ดูจะท่าไปได้สวยสำหรับพวกเขา แต่ปัญหาใหญ่ข้อหนึ่งที่แฟนๆกรีนเดย์ทุกคนเฝ้าถามตัวเองก็คือ แล้วหลังจากวันนี้ พวกเขาทั้ง 3 คนจะทำอย่างไรต่อไปในอนาคต หรือพวกเขาควรจะจบอาชีพของตัวเอง ณ ที่จุดสูงสุดตรง….

21st Century Break Down
ปี 2009 กรีนเดย์กลับมาสร้างปรากฎการณ์ทางดนตรีอีกครั้ง อัลบั้ม ชุดใหม่ในรอบ 5 ปี 21st Century Breakdown สุดยอดเพลงร็อคที่ดีที่สุดในปีนี้ 5 ดาวการันตี พร้อมนิยามแห่งปี “A fantastic amazing piece on the biggest record of the year!”, Q Magazine Green Day ใช้เวลาทำอัลบั้มชุดนี้ตั้งแต่ปี 2006 3 ปีแห่งการทำงานชุดใหม่ ที่เข้มข้นกว่า ดีกว่าครั้งไหน ถึงแม้ในปีที่แล้ว กรีนเดย์ ซุ่มทำไซด์โปรเจ็ค นั่นก็คือ Foxboro Hottub ส่งออกมาชิมลาง โดยที่ไม่บอกแฟนเพลงว่าเป็นพวกเขาเป็นไปได้ว่าหลังจากออกไซด์โปรเจ็ค แนวเพลงร็อค แอนด์ โรล จ๋า ก็เลยเกิดคันไม้คันมือ จับมือกันลุยสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 8

นักร้องนำ Billy เผยว่า 21st Century Breakdown คือการกลับไปสู่จุดเริ่มต้นเดิมของพวกเขา และมีแรงบันดาลใจจากศิลปินร็อครุ่นใหญ่ อย่าง Queen, The Beach Boys, The Beatles , Bruce Springsteen เป็นต้น อัลบั้มนี้พวกเขาได้ Butch Vig มือกลอง Garbage มาร่วมโปรดิวซ์  พิสูจน์อัลบั้ม 21st Century Breakdown พร้อมกัน 19 พฤษภานี้!!

Band Member

Billie_Joe_Armstrong_915416.jpgบิลลี่ โจ อาร์มสตรอง  (Billie Joe Armstrong)
เกิดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2515  รับหน้าที่เป็นนักร้องนำ นักแต่งเพลงหลัก และมือกีต้าร์ให้กับวง "กรีนเดย์”
บิลลี่ เป็นลูกคนสุดท้องจากบรรดาลูก 6 คนของครอบครัว เขามีภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย บิดาของเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในวันที่ 10 กันยายน 2525 ซึ่งตอนนั้น บิลลี่อายุเพียง 10 ขวบ เพลง “Wake Me Up When September Ends" แต่งขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงบิดาที่จากไปของเขา

ความสนใจในดนตรีของอาร์มสตรองเริ่มขึ้นตั้งแต่เขายังเด็ก ตอนอายุเพียง 5 ขวบ ครูของเขาสนับสนุนให้เขาอัดเพลงชื่อว่า “Look For Love” ภายใต้สังกัด "เฟียต เร็คคอร์ด”  หลังจากที่พ่อของเขาเสียชีวิต แม่ของเขาแต่งงานใหม่ ด้วยเหตุนี้เองทำให้อาร์มสตรองหันไปใช้ชีวิตอยู่กับดนตรีมากขึ้น เขาแต่งเพลง “Why Do You Want Him” ให้กับพ่อเลี้ยงของเขา ตอนอายุ 12 ปี เขาศึกษาอยู่ที่โรงเรียนคาร์กิเนซ มิดเดิ้ล สคูล ที่เมืองคร็อคเก็ตต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และที่นั่นเอง เขาได้รู้จักกับไมค์ เดิร์นท์ พวกเขาสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วเนื่องด้วยความรักในดนตรีที่ทั้งคู่มีเหมือนกัน ตอนเป็นวัยรุ่น เขาสนใจในเพลงแนวเมทัล แล้วค่อยๆเปลี่ยนแนวมาเป็นพั้งค์หลังจากที่เขาได้ฟังเพลงของ Six Pistol  ชื่อว่า “Holidays in the Sun” นอกจากนี้ อาร์มสตรองยังได้แรงบันดาลใจจากวง “เดอะ รีเพลสเม้นท์” และ “ฮัสเกอร์ ดู” จากเมืองมินนิอาโปลิส ต่อมาเขาเข้าศึกษาในระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนจอห์น สเว็ตต์   ไฮสคูล ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองคร็อคเก็ตต์เช่นเดียวกัน แล้วย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนพิโนลย์ วัลเล่ย์ ไฮสคูล ในเมืองพิโนลย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เขาตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2532 หนึ่งวันก่อนวันเกิดปีที่ 17 ของเขาเพื่อหันไปทุ่มเทกับอาชีพนักดนตรีของเขา 
 

นอกจากเป็นสมาชิกวงกรีนเดย์ และวงรุ่นน้องอย่าง “พินเฮ้ด กันพาวเดอร์” แล้ว อาร์มสตรองยังเป็นผู้มีฝีมือที่ศิลปินมากมายอยากร่วมงานด้วย เขาเคยร่วมแต่งเพลงให้กับวง เดอะ โก โกส์ ที่ชื่อว่า “Unforgiven” และร่วมแต่งเพลง “The Angel and The Jern” และเพลง “New Day" กับเพเนโลเป้ ฮุสตัน นักร้องนำของอดีตวงร็อคชื่อดัง อเวนเจอร์ส นอกจากนั้นเขายังเคยร่วมแต่งเพลงกับวงแรนซิด (เพลง “Radio”) และรับหน้าที่เป็นเสียงประสานร่วมกับเมลิซซา โอฟ์ เดอร์ มาวเออร์ ให้กับเพลง “Do Miss America” ของไรอัน อดัมส์ (พวกเขาเคยรับหน้าที่เล่นดนตรีให้กับอิ๊กกี้  ป๊อบ ในอัลบั้ม สกัลล์ ริงก์ (เพลง”Private Hell” และเพลง “Supermarket”)) อาร์มสตรองเคยโปรดิวซ์อัลบั้มให้กับวงพั้งก์ร็อค “เดอะ ริเวอร์เดลส์” และมีข่าวลือมาว่าเขาทำงานให้กับวงร็อคคลื่นลูกใหม่ “เดอะ เน็ตเวิร์ค” ซึ่งปล่อยอัลบั้มที่มีชื่อว่า “มันนี่ มันนี่ 2020" ถ้าแฟนๆของกรีนเดย์ได้ลองฟังเพลงของพวกเขาก็จะรู้สึกว่าทั้งสองวงนี้มีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก อัลบั้ม “มันนี่ มันนี่ 2020” อยู่ภายใต้สังกัดแอเดอลีน เร็คคอร์ดส์ ซึ่งมีอาร์มสตรองรับหน้าที่เป็นหนึ่งในผู้บริหาร นอกจากนั้น เขายังเคยร่วมงานกับวงระดับตำนานอย่าง ยูทู ในเพลง The Saints Are Coming และวงกรีนเดย์ยังเคยร่วมงานกับวงเร็ดฮ๊อต ชิลลี่ เปปเปอร์ ในมิวสิควิดีโอเพลง Dani California 

 

Billie_Joe_Armstrong_915416.jpgไมค์ เดิร์นท์  (Mike Dirnt)  เกิดวันที่ 4 พฤษภาคม 2515
ตำแหน่งมือเบส และนักร้องเสียงประสานให้กับวง
ตอนยังศึกษาอยู่ เขามักเล่นแอร์เบส และในช่วงระหว่างที่เขาดีดสายแอร์เบส เขามักทำให้เกิดเสียง “เดิร์นท์ เดิร์นท์ เดิร์นท์” และเสียงนี้จึงกลายมาเป็นชื่อในวงการของเขา "ไมค์ เดิร์นท์”   

เดิร์นท์เกิดที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา และเติบโตขึ้นที่เมืองโรดีโอ แคลิฟอร์เนีย เขาเป็นบุตรบุญธรรมของมารดาชาวพื้นเมืองอเมริกันและบิดาชาวอเมริกันเชื้อสายยุโรป  หลังจากวันเกิดปีที่ 6 ของเขาไม่นาน พ่อแม่บุญธรรมของเขาหย่ากัน ซึ่งสั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างพ่อบุญธรรมซึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์ผู้มีอันจะกิน กับแม่ผู้มีชีวิตยากลำบากของเขา “ผมเติบโตมากับคุณแม่ที่เกลียดผู้ชายผิวขาว แต่เธอเลือกที่จะรักผม” เขากล่าว
ต่อมาแม่ของเขาแต่งงานใหม่  และหนีไปหลังจากนั้นไม่นาน ซึ่งทำให้เขาสนิทสนมกับพ่อเลี้ยง  แต่พ่อเลี้ยงก็เสียชีวิตเมื่อเขาอายุได้ 17 ปี    ก่อนหน้านั้นตอนที่เขาอายุ 15 ปี เขาออกมาอยู่ด้วยตัวเองโดยอาศัยอยู่ในรถบรรทุกของเขา ต่อมาเขาจึงเช่าห้องในบ้านของอาร์มสตรองอยู่ เขาศึกษาชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนซาเลเซียน ไฮสคูล (ตอนนั้นเขาเป็นสมาชิกวง เฮลเดอร์ แอนด์ เดอะ เฮลเดอนอทส์) ต่อมาเขาย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนจอห์น สเว็ตต์ ไฮสคูล และสุดท้ายจบการศึกษาจากโรงเรียนพิโนลย์ วัลเล่ย์ ไฮสคูล ในปี 2533 และเริ่มออกทัวร์กับวงกรีนเดย์ทันที  

คอนเสริ์ตของกรีนเดย์ในงานวู้ดสต็อค ปี 2537 ถือเป็นเหตุการณ์ที่ต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะตอนนั้นเกิดสงครามปาโคลนระหว่างนักดนตรีกับกลุ่มผู้ชม จนกระทั่งมีแฟนเปื้อนโคลนกลุ่มหนึ่งปีนขึ้นไปบนเวทีตอนท้ายของการแสดง แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับเข้าใจผิดคิดว่าเดิร์นท์คือกลุ่มแฟนเพลงเลือดร้อน เขาถูกชาร์จตัวจนทำให้ฟันหักหลายซี่
 

Billie_Joe_Armstrong_915416.jpgเทร คูล  (Tré Cool)  ตำแหน่งมือกลองของวง เขามาแทนมือกลองคนเก่าของวง จอห์น คิฟเมเยอร์ ที่ออกจากวงในปี 2533  
เทร คุน เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2515 ในเมืองแฟรงค์เฟิร์ท ประเทศเยอรมนี  อาศัยอยู่ในเมืองวิลลิทส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย กับพ่อและพี่สาว พ่อของเขาผู้ซึ่งเป็นนักขับเฮลิคอปเตอร์ในสมัยสงครามเวียดนาม ย้ายไปตั้งรกรากที่เมืองวิลลิทส์หลังจากที่กลับมาจากสงคราม
เพื่อนบ้านคนสนิทของเขา คือแลร์รี่ ลิเวอร์มอร์ ซึ่งในตอนนั้นรับหน้าที่เป็นนักร้องนำให้กับวงพั้งค์ “เดอะ ลุคเอ้าท์” ตอนอายุได้ 11 ปี ลิเวอร์มอร์ชักชวนให้เขามาร่วมเป็นสมาชิกในวงและตั้งชื่อในวงการให้ว่า “เทร คูล” โดยเอามาจากภาษาฝรั่งเศส คำว่า tres ซึ่งหมายความว่า มากๆ รวมกับกับว่า cool ซึ่งแปลว่า เท่ แต่ด้วยความที่ตัวอักษร s ไม่ได้อ่านออกเสียงด้วย เลยทำให้ตัวสะกดของชื่อเขาไม่มีตัว s รวมอยู่ด้วย
เมื่อมือกลองของกรีนเดย์ จอห์น คิฟเมเยอร์ ลาออกจากวง พวกเขาจึงจ้างให้คูลมาเล่นกลองให้ คูลตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน ซึ่งตอนนั้นเขาศึกษาอยู่ชั้นปี 2  ตอนนั้นเขาเป็นถึงประธานรุ่น  แต่กระนั้นเขาก็ผ่านการทดสอบได้วุฒิการศึกษาและเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยชุมชน แต่เขาต้องออกจากที่นั่น เพราะกรีนเดย์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และต้องออกทัวร์มากขึ้น

พ่อของคูล ดัดแปลงรถที่ใช้เป็นห้องสมุดเคลื่อนที่ให้มาเป็นรถที่ใช้สำหรับทัวร์ของวง และยังรับหน้าที่เป็นคนขับเองอีกด้วย “ผมเฝ้ามองพวกเขาเติบโตจากกลุ่มเด็กที่เล่นดนตรีเสียงดังไม่ยอมหยุด” เขาเล่าต่อ “ในการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกๆของพวกเขา ผมมองว่ามันเป็นเหมือนปาร์ตี้เสียมากกว่า ตอนนั้นผมถึงกับเกาหัวแล้วบอกว่า “เราจะประสบความสำเร็จได้อย่างไรกัน?” พวกเขามักจะซ้อมเล่นดนตรีกันที่ห้องนั่งเล่น  และเป็นที่มาของเพลงหลายเพลงในอัลบั้ม Dookie คุณได้รู้เห็นที่มาของมัน และคุณไม่ได้คาดหวังเลยว่าคนเขาจะยอมควักเงินในกระเป๋าเพื่อมาซื้อเพลงพวกนี้ แต่พอมันประสบความสำเร็จขึ้นมา เราก็ได้แต่พูดว่า “ว้าว นั่นมันยอดเยี่ยมมากเลย” 

ในปี 2541 หลังจากที่วงกรีนเดย์ได้รับถ้วยรางวัลจากงาน MTV Music Awards เทร คูล เป็นที่รู้จักจากการที่เขาไปทำการวัดลูกโลกยูนิเวอร์แซล ที่สตูดิโอยูนิเวอร์แซล แต่เขาก็สามารถผ่านพ้นมาได้ โดยไม่ถูกลงโทษ แต่กลับได้รับแรงเชียร์และกำลังใจจากคนดูอย่างล้นหลาม     เทรเคยมีชื่อเสียงในเรื่องที่เขาเผากลองของตัวเองบนเวทีในทุกๆการสิ้นสุดของทัวร์อัลบั้ม “วอร์นิ่ง” นอกจากนั้น ธรรมเนียมการแจกฉาบของเขายังเป็นที่เลื่องลืออีกด้วย  

เทรร้องนำและเล่นกีต้าร์ในเพลง “Dominated Love Slave” และเพลง “All by Myself” ในอัลบั้ม Kerplunk! และ Dookie  เขายังแต่งและร้องเสียงประสานให้กับเพลง “Rock and Roll Girlfriend" ซึ่งรวมอยู่ในเมดเล่ย์เพลง “Homecoming” ที่รวมอยู่ในอัลบั้ม American Idiot อีกทั้งเขายังร้องและแต่งเพลง “DUI” ("Driving Under the Influence”) ซึ่งอัดในช่วงระหว่างการโปรโมตอัลบั้ม Nimrod แต่นำไปรวมอยู่ในอัลบั้ม Shenanigans (ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมเพลงพิเศษที่ไม่ได้รวมอยู่ในอัลบั้มก่อนหน้านั้น) เพลงนี้ไม่ได้รวมอยู่ในอัลบั้มหลักๆเลย (ถึงแม้ว่าชื่อของมันจะรวมอยู่ในอัลบั้มที่คาดว่าจะวางแผงในญี่ปุ่น) แต่สุดท้ายเพลงนี้ก็ได้รวมอยู่แต่ในเพลงโปรโมต

Green Day Discography
39/Smooth LP/Cassette 10 track (1990, Lookout! records)
1,039/Smoothed out slappy hours CD/ Cassette 19 track (1991, Lookout! records)
Kerplunk LP/ CD/ Cassette 12/14 track (1992, Lookout! records)
Dookie LP/ CD/ Cassette 14 track (1994, Reprise records)
Insomniac LP/ CD/ Cassette 14 track (1995, Reprise records)
Nimrod LP/ CD/ Cassette 18 track (1997, Reprise records)
Warning LP/ CD/ Cassette 12 track (2000, Reprise records)
International superhits LP/ CD/ Cassette 21 track (2001, Reprise records)
American idiot LP/ CD/ Cassette 13 track (2004, Reprise records)
Bullet in a bible CD+DVD/ UMD/ BLU RAY 15 track, (2005, Reprise records)
21st Century breakdown LP/ CD 18 track (2009, Reprise records)

World Tour 2009 - 2010
Date  City, State                Venue
12-04 Perth, AustraliaBurswood   Dome, Perth
12-04 Adelaide, AustraliaAdelaide Entertainment Centre
12-08 Brisbane, AustraliaBrisbane Entertainment Centre
12-09 Brisbane, AustraliaBrisbane Entertainment Centre
12-11  Sydney, Australia  Acer Arena
12-12  Sydney, Australia  Acer Arena
12-14  Melbourne, Australia  Rod Laver Arena
12-18   Auckland, New Zealand Vector Arena
12-19   Auckland, New Zealand Vector Arena
01-12   Bangkok, Thailand Impact Arena
01-14  SingaporeSingapore Indoor Stadium
01-16   Hong Kong, China AWE Arena
01-18  Seoul, Korea  Olympic Gym #1
01-21  Osaka, Japan Osaka-Jo Hall
01-23   Saitama-shi, Japan Saitama Super Arena
01-24  Saitama-shi, Japan  Saitama Super Arena
01-25   Nagoya, Japan Nihon Gaishi Hall

..:: ส่วนลดพิเศษ ::.
รับสิทธิ์ลุ้นชมคอนเสิร์ต Green Day ที่ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 14 มกราคม 2553 พร้อมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และที่พัก 3 วัน 2 คืนจำนวน 2 รางวัลๆละ 2 ที่นั่ง เมื่อซื้อบัตรชมคอนเสิร์ต ระหว่างวันที่ 7 – 30 พฤศจิกายน นี้

ส่วนลด 15% สูงสุด 4 ใบ
เงื่อนไข นำฝาผลิตภัณฑ์สิงห์ 2 ฝาแลกส่วนลดได้ 15%
ช่วงเวลา
วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2552 ถึง วันจันทร์ที่ 30 พฤษจิกายน 2552
ช่องทางการรับส่วนลด เฉพาะจุดจำหน่ายเท่านั้น
หมายเหตุ   รับส่วนลดสูงสุด 4 ใบ ต่อ 2 ฝา


ส่วนลด 10% สูงสุด 4 ใบ
เงื่อนไข นำหัวหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ หรือ โพสต์ ทูเดย์ 2 ฉบับ
รับส่วนลด 10%
ช่วงเวลา
วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2552 ถึง วันจันทร์ที่ 30 พฤษจิกายน 2552
ช่องทางการรับส่วนลด เฉพาะจุดจำหน่ายเท่านั้น
หมายเหตุ   รับส่วนลดสูงสุด 4 ใบ


ส่วนลด 10%
เงื่อนไข นำ Key Card โรงแรม มาเป็นส่วนลดได้ 10%
ช่วงเวลา
วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2552 ถึง วันจันทร์ที่ 30 พฤษจิกายน 2552
ช่องทางการรับส่วนลด เฉพาะทางจุดจำหน่ายเท่านั้น
หมายเหตุ รับส่วนลดสูงสุด 4 ใบ


ส่วนลด 10% สูงสุด 2 ใบ
เงื่อนไข แสดงบัตร Virgin 24 Cards รับส่วนลด 10 %
ช่วงเวลา
วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2552 ถึง วันจันทร์ที่ 30 พฤษจิกายน 2552
ช่องทางการรับส่วนลด เฉพาะจุดจำหน่ายเท่านั้น
หมายเหตุ รับส่วนลดสูงสุด 2 ใบ


ส่วนลด 10% สูงสุด 4 ใบ
เงื่อนไข แสดงบัตร The One Card รับส่วนลด 10%
ช่วงเวลา
วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2552 ถึง วันจันทร์ที่ 30 พฤษจิกายน 2552
ช่องทางการรับส่วนลด เฉพาะจุดจำหน่ายเท่านั้น
หมายเหตุ รับส่วนลดสูงสุด 4 ใบ


ส่วนลด 10%
เงื่อนไข แสดงบัตร M Card รับส่วนลด 10%
ช่วงเวลา
วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2552 ถึง วันจันทร์ที่ 30 พฤษจิกายน 2552
ช่องทางการรับส่วนลด เฉพาะทางจุดจำหน่ายเท่านั้น
หมายเหตุ -

logo.png บัตรชมคอนเสิร์ต GREEN DAY ทุกใบ สามารถนำไปใช้ดาวน์โหลด MP3 สองเพลงยอดฮิตได้ฟรีจากวง Green Day คือ คือ Boulevard of Broken Dreams กับ When I Come Around พร้อมมิวสิควีดีโอสุดเท่ห์จากเพลง    21 Guns จากค่ายเพลง เวอร์นอร์ มิวสิค ประเทศไทย เพียงแค่ท่านสมัครสมาชิกใน www.qikplay.com คลิกตรงเว็บแบนเนอร์ของ Green Day Song Download ก็จะมี pop-up window ปรากฏขึ้นมา และนำ download code ที่อยู่หลังบัตรชมคอนเสิร์ตของท่าน ไปใส่ในช่องที่เตรียมไว้ให้

www.qikplay.com คือร้านค้าซีดีออนไลน์ที่รวมศิลปินทั้งไทยและสากล ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งสินค้าที่มีอยู่ในระบบ ณ ตอนนี้ประกอบไปด้วยมากกว่า 1200 อัลบั้ม 10750 เพลง และ 880 ศิลปิน    ท่านสามารถหาอัลบั้มของศิลปินใหม่ๆ รวมทั้งอัลบั้มจากศิลปินยอดฮิตจากยุคก่อนๆ ที่ไม่สามารถหาได้ตามร้านค้าทั่วไปได้ที่นี่ ส่งสินค้าตรงถึงบ้านคุณในราคาพิเศษสุดๆ ซึ่งถูกกว่าการสั่งจากเว็บไซต์ต่างประเทศ สัมผัสกับโลกดนตรีที่หลากหลายได้แล้ววันนี้ที่ www.qikplay.com


logo.png
 
 
 
 
Disclaimer: All information and content contained on these Web pages are based on the latest information available at the time of publication.
BECTERO.COM reserves the right to change the content on this Web Site at any time without notice and shall not be responsible for any incorrectness, incompleteness, inappropriateness or typographical errors.

Copyright © 2008, www.bectero.com, All rights reserved.