วง “ควีน” (Queen) ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา มีการประมาณการว่า ผลงานเพลงทั้ง 18 อัลบั้มของพวกเขาขายได้ถึงประมาณ  150 - 300 ล้านแผ่น   ทั่วโลก ควีนยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินชื่อดังอีกมากมายทั่วโลก รวมถึง เลดี้ กาก้า, เคที เพอรี และ Foo Fighters

               ตำนานความยิ่งใหญ่ของวง ควีน เริ่มขึ้นในปี 1971 ที่พวกเขาเริ่มก่อตั้งวง และได้เซ็นต์สัญญาบันทึกเสียงครั้งแรกกับค่าย อีเอ็มไอ (EMI) ในปี1973  และปีเดียวกันนั้นพวกเขาปล่อยอัลบั้มชุดแรกในชื่อ “QUEEN” ออกมา  และเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตใหญ่ในสหราชอาณาจักร ปี 1974 มีอัลบั้ม “QUEEN II” และออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วสหราชอาณาจักร รวมทั้งทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา  และในช่วงปลายปีนั้นก็ได้ออกผลงาน “SHEER HEART ATTACK” ซึ่งประสบความสำเร็จทั้งในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา  

               ปี 1975 อัลบั้ม “A NIGHT AT THE OPERA”  พร้อมซิลเกิลก้องโลกอย่าง “โบฮีเมียน ราปโซดี้” (Bohemian Rhapsody) ได้ถูกปล่อยออกมา แม้จะมีความยาวถึง 5.55 นาที แต่เพลงนี้ก็ได้กลายเป็นเพลงฮิตที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล ครองอันดับหนึ่งบนชาร์ตเพลงสหราชอาณาจักรถึง 9 สัปดาห์ มีมิวสิควิดิโอ ที่กำกับโดย Bruce Gowers ได้รับการยกย่องให้เป็นมิวสิควิดีโอชิ้นแรกของวงการเพลง และงานเพลงอัลบั้มนี้ก็ประสบความสำเร็จ   เป็นอย่างสูง และเป็นอัลบั้มแรกของพวกเขาที่ได้รับรางวัลแพลตตินัม

               ปี 1976 วงได้ออกทัวร์ในสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง และต่อด้วยญี่ปุ่น ในเวลาเดียวกันงานเพลงก็ขึ้นท็อป 20 ของชาร์ตเพลงในสหราชอาณาจักร และในปีเดียวกันนี้พวกเขาได้ปล่อยอัลบั้ม “A DAY AT THE RACES” และจัดฟรีคอนเสิร์ตขึ้นที่ ไฮด์ พาร์ค ซึ่งคาดกันว่ามีแฟนเพลงเข้าชมมากถึง 2 แสนคน!!   อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย แค่ยอดจองซื้ออัลบั้มล่วงหน้าก็สูงถึง 5 แสนแผ่น ในปีต่อมาพวกเขาเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ 2 ครั้ง ที่สหรัฐอเมริกา และปล่อยอัลบั้มที่ 6 ชื่อ “NEWS OF THE WORLD”  ซึ่งมีเพลงระดับตำนานอย่าง “วี วิล ร็อค ยู” (WE WILL ROCK YOU) และ “วีอาร์ เดอะ แชมป์เปียนส์” (WE ARE THE CHAMPIONS) อยู่ด้วย

               ปี 1978 ได้ปล่อยอัลบั้ม “JAZZ” ออกมา ซึ่งมีเพลงดังอย่าง “ไบซิเคิล” (Bicycle) และ “ควีน” (Queen) พร้อมทั้งออกทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้งทั้งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา และในปีถัดมาก็ออกตระเวณทัวร์ยุโรปและญี่ปุ่น พร้อมทั้งปล่อยอัลบั้มบันทึกการแสดงสดชุดแรกในชื่อ “LIVE KILLERS” และได้ทำเพลงประกอบภาพยนต์เรื่อง “FLASH GORDON”

               ปี 1980 ออกอัลบั้ม “THE GAME” ซึ่งได้รับรางวัลแพลตตินัมถึง 5 ครั้ง เฉพาะที่ประเทศแคนาดา  และเพลง “ไบต์ส เดอะ ดัสต์” (Bites The Dust) กลายเป็นเพลงที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา   ซึ่งในปีนั้นควีนทำยอดขายกว่า 45,000,000 ก็อปปี้ทั่วโลก!!

               ปี 1981 ควีนเป็นวงแรกที่จัดการแสดงในสนามกีฬาในทวีปอเมริกาใต้ โดยแสดงต่อหน้าคนดูมากกว่า 131,000 คนใน เซา เปาโล ประเทศบราซิล ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดในโลก ในปีเดียวกันนั้นมี 3 อัลบั้ม ทีถูกปล่อยออกมาพร้อมกัน คือ “GREATEST HITS” , “GREATEST FLIX” และ “GREATEST PIX”    ซึ่ง “GREATEST HITS” แทบไม่เคยหลุดจากชาร์ตเพลงต่างๆในสหราชอาณาจักรเลย ส่วน “GREATEST FLIX” ก็ถือเป็นอัลบั้มคอลเลคชั่น      มิวสิควิดิโอชุดแรกของโลก ปีต่อมาอัลบั้มที่ 12 ชื่อ “HOT SPACE” ถูกปล่อยออกมาในขณะที่พวกเขาทัวร์คอนเสิร์ตอยู่ที่ยุโรป

               ปี 1984 ได้ออกอัลบั้ม “THE WORKS” โดยมีเพลง “เรดิโอ กา กา” (Radio Ga Ga) โด่งดังไปทั่วโลก ขึ้นอันดับ 1 ใน 19 ประเทศ และอีกหนึ่งซิงเกิลฮิตคือ “ไอ วอนท์ ทู เบรก ฟรี” (I Want To Break Free) ซึ่งมิวสิควิดิโอเพลงนี้โด่งดังสูงสุด เนื่องจากสมาชิกในวงแต่งตัวเป็นนางโชว์

               ปี 1985 ควีนเป็นวงเฮดไลน์ ใน Rock in Rio มหกรรมดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และพวกเขาได้สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง เมื่อขึ้นแสดงที่ Live Aid สนามเวมบลีย์ และถือเป็นจุดเปลี่ยนของวงก่อนปล่อยผลงาน “วัน วิชั่น” (One Vision)

               ปี 1986 ปล่อยอัลบั้มที่ 14 “A KIND OF MAGIC”  ซึ่งได้รับการนำไปประกอบภาพยนต์ของ รัสเซล มัลคาฮีย์ เรื่อง Highlander ที่ดังไปทั่วโลก และอัลบั้มนี้ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ของสหราชอาณาจักร ในปีเดียวกัน พวกเขาปล่อยอัลบั้มบันทึกการแสดงสดชุดที่ 2 ชื่อ “LIVE MAGIC” และขึ้นชาร์ตอันดับ 3 ระหว่างปี 1988 และ 1991 ควีนมีอีก 3 อัลบั้ม คือ THE MIRACLE, INNUENDO และ GREATEST HITS TWO  ซึ่งทั้ง 3 อัลบั้ม ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ของสหราชอาณาจักร

               วันที่ 23 พฤศจิกายน 1991 เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ ประกาศต่อคนทั้งโลกว่าเขาติดเชื้อเอดส์  และในวันต่อมาเขาเสียชีวิตลงอย่างสงบที่บ้าน ห้อมล้อมด้วยครอบครัวและญาติมิตร ข่าวนี้ทำให้แฟนเพลงช็อคไปทั่วโลก อัลบั้ม “Bohemian Rhapsody /These Are The Days Of Our Lives” ก็ถูกปล่อยออกมาเพื่อระลึกถึงการจากไป     ของเขา และเพื่อหารายได้ช่วยกองทุน “The Terence Higgins Trust” ซึ่งเพลงขึ้นชาร์ตอันดับ 1 สหราชอาณาจักรยาวนานถึง 5 สัปดาห์ และได้รับเงินบริจาคมากกว่า 1 ล้านปอนด์  และควีนยังเป็นวงแรกที่มีซิงเกิลเดียวกัน ขึ้นชาร์ตอันดับ 1  สหราชอาณาจักร ถึง 2 ครั้ง   ในเดือนธันวาคม วงควีนมีผลงานถึง 10 อัลบั้มที่ติดชาร์ตท็อป 100 ของสหราชอาณาจักร

               ปี 1992 บริท อวอร์ด มอบรางวัล “Outstanding Contribution to British Music” ให้แก่ เฟรดดี้  เพื่อเป็นการยกย่อง และเพลง เดย์ส ออฟ อาวร์ ไลฟ์ส ได้รับรางวัลซิงเกิลยอดเยี่ยม

               วันที่ 20 เมษายน ดาวดังของโลกร่วมแสดงคอนเสิร์ตกับ ไบรอัน เมย์ (Brian May) และ โรเจอร์ เทย์เลอร์ (Roger Taylor) สมาชิกที่เหลือของวงเพื่อระลึกถึงเฟรดดี้

               ปี 1995 อัลบั้ม “MADE IN HEAVEN” ที่ทุกคนรอก็เสร็จสมบูรณ์  โดยฝีมือของไบรอัน โรเจอร์ และ จอห์น  ดีคอน สมาชิกที่เหลือ  ซึ่งงานเพลงชุดนี้ ควีนได้เริ่มทำกันตั้งแต่ปี 1991 และถือเป็นการสิ้นสุดของตำนาน 

               ตำนานความยิ่งใหญ่ของ ควีน อยู่ในใจผู้คนทั่วโลกตลอดมา ผลงานของพวกเขาก็ยังคงขายได้อยู่เสมอ เมื่อปี 1997 ได้มีการนำบทเพลงของควีนไปใช้ประกอบการแสดงบัลเลต์ของศิลปินชื่อดังชาวฝรั่งเศส มัวริส เบอจาร์ และเปิดแสดงที่ National Theatre ในกรุงปารีส   และในปี 2002 ละครเพลงเรื่องยิ่งใหญ่ “วี วิล ร็อค ยู” (WE WILL ROCK YOU) ได้ถือกำเนิดขึ้นที่ London’s West End ซึ่งบัตรเข้าชมขายหมดทุกคืน และละครเพลงเรื่องนี้ได้เดินทางไปเปิดการแสดงทั่วโลก   ในปีเดียวกัน ดีวีดี “Greatest Video Hits Vol.1” ได้วางจำหน่ายและขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในสหราชอาณาจักร  พร้อมทั้งชื่อของวงได้ถูกจารึกลงบน Hollywood Walk of Fame ที่ ลอส แองเจิลลิส เทียบเคียงกับวง เดอะ บีทเทิลส์ ผู้ยิ่งใหญ่  ซึ่งถือเป็นเกียรติสำหรับศิลปินที่ไม่ใช่สัญชาติอเมริกัน เพียงไม่กี่วงที่ได้รับการยกย่องเช่นนี้ในปี 2004 ชื่อของควีนติดทำเนียบ Rock and Roll Walk of Fame  และ UK Music Hall of Fame ที่สหราชอาณาจักร

               และในปี 2009 ไบรอัน เมย์ และ โรเจอร์ เทย์เลอร์ ได้พบกับศิลปินอเมริกันรุ่นใหม่มากความสามารถ “อดัม แลมเบิร์ต” (Adam Lambert) เป็นครั้งแรกในรายการ อเมริกัน ไอดอล (American Idol) เพื่อร่วมกันทำโชว์ที่ชื่อว่า วี อาร์ เดอะ แชมป์เปี้ยนส์ (We are the Champions) 2 ปีต่อมา ทั้งสามได้ร่วมมือกันอีกครั้งเพื่อแสดงโชว์   ฟินาเล่สุดเร้าใจปิดงาน เอ็มทีวี ยูโรเปี้ยน มิวสิค อวอร์ด (MTV European Music Award) และในที่สุด ช่วงฤดูร้อนปี 2012 พวกเขาได้เปิดทัวร์คอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกทั่วยุโรปซึ่งบัตรชมการแสดงถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยง รวมทั้งการแสดงสดให้กับแฟนเพลงจำนวนกว่าครึ่งล้านในเมืองเคียฟ ประเทศยูเครน

               ในเดือนมีนาคม ปี 2014 “ควีน + อดัม แลมเบิร์ต” (Queen + Adam Lambert) ได้ประกาศเปิดการแสดงในทวีปอเมริกาเหนือ และบัตรการแสดงทั้งหมด 24 รอบถูกขายหมดภายในข้ามคืน นอกจากนี้ พวกเขาทั้งสามยังได้รางวัลวงดนตรีแห่งปี (Band of the Year) ในงานประกาศรางวัล แอนนวล คลาสสิค ร็อค โรล ครั้งที่ 10 (10^th Annual Classic Rock Roll) ทั้งนี้ยังได้รับการโหวตให้เป็นวงดนตรียอดเยี่ยมแห่งปี (Best Band of the Year)     ในโพลของ อัลทิเมท คลาสสิค ร็อค (Ultimate Classic Rock) ส่งท้ายปีด้วยการแสดงสดต่อหน้าผู้ชมทางโทรทัศน์มากกว่า 12 ล้านคน ในรายการ นิว เยียร์ส อีฟ สเปคแทคคิวลา ควีน + อดัม แลมเบิร์ต ร็อค บิ๊ก เบน ช่อง บีบีซี ประเทศอังกฤษ (UK BBC Television’s New Year’s Eve spectacular Queen + Adam Lambert Rock Big Ben) และชื่อของ “อดัม แลมเบิร์ต” (Adam Lambert) กลายเป็นชื่อที่ถูกค้นหามากกว่า 5 แสนครั้งที่กูเกิ้ลของประเทศอังกฤษภายใน 24 ชม. หลังจบการแสดงอีกด้วย

               ในปี 2015 “ควีน + อดัม แลมเบิร์ต” ได้ทำการแสดงเป็นจำนวน 26 รอบใน 10 ประเทศ ทั่วสหราชอาณาจักรและยุโรป โดยบัตรเข้าชมถูกขายหมดเกลี้ยงอีกเช่นเคย และปีนี้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งสองได้กลับไปที่ยุโรปอีกครั้ง เพื่อขึ้นทำการแสดงทั้งหมด 15 รอบการแสดงในเทศกาลงานดนตรีใหญ่ๆ ในช่วงฤดูร้อน จากนั้นในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ พวกเขาจะออกเดินทางเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และฝั่งตะวันออก และแน่นอนประเทศไทยก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งในตำนานความยิ่งใหญ่ของวงร็อค ที่ยังคงอยู่ในใจคนทั้งโลกกับคอนเสิร์ต ควีน + อดัม แลมเบิร์ต ออน ทัวร์ อิน แบ็งคอก (Queen + Adam Lambert On Tour in Bangkok)ในวันศุกร์ที่ 30 กันยายนนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี บัตรราคาเริ่มต้น 2,000 บาท จำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือ www.thaiticketmajor.com  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 0-2262-3838