สร้างความสุขให้กับแฟนเพลงอย่างเต็มเปี่ยมกับสุดยอดคอนเสิร์ต “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น แอนด์ มิวสิค วัน พรีเซ้นท์ ฮิตแมน เดวิด ฟอสเตอร์ แอนด์ เฟรนด์ส ไลฟ์ อิน แบ็งคอค” (Singha Corporation and Music One Present Hit Man David Foster and Friends Live in Bangkok) ที่สุดยอดนักแต่งเพลงระดับโลก และโปรดิวเซอร์มือทอง เดวิด ฟอสเตอร์ (David Foster) เดินทางมาเปิดการแสดงครั้งยิ่งใหญ่ในเมืองไทยพร้อมกับเหล่าศิลปินดังระดับโลกอย่าง นาตาลี โคล (Natalie Cole), ชารีซ (Charice), ปีเตอร์ เซทาร่า (Peter Cetara), รูเบน สตัดดาร์ด (Ruben Studdard) และ เดอะ แคนาเดียน เทเนอร์ส (The Canadian Tenors) เมื่อคืนวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา
การแสดงเกือบ 3 ชั่วโมง กับฝีมือการบรรเลงเปียโนของโปรดิวเซอร์มือทองที่ร่วมแสดงกับเหล่าศิลปินที่มีน้ำเสียงขั้นเทพ ที่สลับสับเปลี่ยนกันออกมาเรียกเสียงตบมือและเสียงกรี๊ดจากผู้ชมกว่าหมื่นคนที่จับจองทุกที่นั่งเต็มเอี๊ยดในอิมแพคอารีน่า ประเดิมเวทีด้วย วงเดอะ แคนาเดียน เทเนอร์ส 4 หนุ่มรูปหล่อที่ออกมาประสานเสียงได้อย่างไพเราะมหัศจรรย์ในเพลง Because We Believe ศิลปินคนต่อมาคือ นาตาลี โคล ที่เวลาไม่สามารถทำอะไรกับเสียงอันทรงพลัง กังวาลไพเราะของเธอได้ แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจและประทับใจได้มากที่สุดคือการร้องเพลง Unforgettable คู่กับบิดา เนท คิงห์ โคล (Nat King Cole) ศิลปินระดับตำนานผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งต้องขอบคุณความล้ำหน้าของเทคโนโลยีในวงการเพลง จากนั้นเป็นคิวของนักร้องหนุ่มผิวสีผู้ชนะจากเวทีอเมริกันไอดอล รูเบน สตัดดาร์ด ที่ออกมาโชว์พลังเสียงสุดยอด โดยเฉพาะเพลง Home และเพลง When I Fall In Love ที่เขาร้องคู่กับ นาตาลี โคล ตามด้วย ปีเตอร์ เซทาร่า ศิลปินหนุ่มรุ่นใหญ่ที่ไม่ทำให้คนฟังผิดหวังกับลีลาการ้องที่เหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็น Hard To Say I’m Sorry, If You Love Me Now ..
เดวิด ฟอสเตอร์ นอกจากจะเป็นโปรดิวเซอร์ชื่อก้องโลกแล้วยังเป็นเอนเตอร์เทรนเนอร์ที่เยี่ยมยอด มีอารมณ์ขันเหลือเฟือ ปล่อยมุขออกเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้เป็นระยะ แต่ที่ทำให้ผู้ชมทั้งฮอลล์นั่งไม่ติดคือเมื่อเขาลงจากเวทีไปชวนผู้ชม ตั้งแต่แถวแรกจนถึงแถวสุดท้ายของฮอลล์ให้ร่วมร้องเพลงด้วยหนึ่งในนั้นมี ทาทา ยัง ที่ลุกขึ้นร้องท่อนหนึ่งของเพลง Because I Love You
ก่อนที่ผู้ชมจะได้ไปพบกับสาวน้อยมหัศจรรย์แห่งเอเชีย ชารีซ ที่ผู้ชมต้องลุกขึ้นตบมือให้กับพลังเสียงเกินตัวของเธอไม่ว่าจะเป็นเพลง The Power of Love, To Love You More โดยเฉพาะเพลง Bodyguard และ All by Myself ที่ทำเอาคนทั้งฮอลล์ขนลุกไปตามๆ กัน
ก่อนจะจบลงด้วยเพลง Earth Song ที่เดวิดเขียนให้กับไมเคล แจ็คสัน เป็นเพลงฟินาเล่ ที่ศิลปินทุกคนออกมาร้องร่วมกันบนเวที จบการแสดงลงอย่างสวยงาม ประทับใจ จนผู้ชมจากทุกที่นั่งต้องลุกขึ้นยืนตบมือ |