แซนดี้ รองอันดับ 2 “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016” อายุน้อย เรียนดี ภาษาอังกฤษพ่นไฟได้

Date:  28/06/2016   |   View:  3,174

             เป็นทีม “มิสไทยแลนด์เวิลด์” ที่อายุน้อยเพียง 18 ปี หากแต่ดีกรีความฉลาดหลักแหลม เรียนดี ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว สำหรับสาวน้อย แซนดี้-ณัฐกมล สุวรรณศิลป์ รองอันดับ 2 “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016 โดยน้องแซนดี้จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จาก โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ในหลักสูตร English Program (EP) ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.80 และกำลังจะเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยนานาชาติสแตมฟอร์ด เรียนเก่งขนาดนี้เราไปพูดคุย รู้จักตัวตน ล้วงเคล็ดลับของน้องแซนดี้ให้มากขึ้นกันดีกว่า

ฉายแววความฉลาดตั้งแต่เด็ก

             น้องแซนดี้เล่าให้ฟังว่า คุณแม่ให้เธอฟังเพลงสากล และภาพยนตร์ต่างประเทศแบบซาวด์แทร์ค ตั้งแต่อยู่ในท้อง โดยช่วนนั้นคุณแม่จะไปดูภาพยนตร์ต่างประเทศ ณ โรงภาพยนตร์อยู่เป็นประจำ และตั้งแต่จำความได้เธอก็ถูกปลูกฝังให้ฟังเพลง ดูภาพยนตร์เป็นภาษาอังกฤษอยู่ตลอด พอเข้าเรียนชั้นอนุบาล จึงเริ่มเรียนหลักสูตร English Program เรียกว่าสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่นั้นมา “อนุบาลแซนดี้ก็เริ่มพูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ แซนดี้รู้สึกสนุกที่ได้เรียน ได้พูดภาษาอังกฤษ และพอประถมก็มาเข้าเรียนที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ร่มเกล้า เป็นหลักสูตร 2 ภาษา เรียนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษค่ะ”

เกรดเฉลี่ย 4.00 โชคไม่ได้ช่วย ความสามารถล้วนๆ

             ในระดับประถมศึกษาน้องแซนดี้ตั้งใจเรียน จนได้เกรดเฉลี่ย 4.00 ตั้งแต่ ป.1 จนถึง ป.6 เอาเป็นว่าเกรด 3 เกรด 2 หน้าตาเป็นเช่นไร น้องแซนดี้ไม่รู้จัก หากพอเข้าระดับชั้นมัธยม มีกิจกรรมให้ทำเยอะขึ้น เกรดเฉลี่ยก็หล่นตุ๊บลงมา...เล็กน้อย แต่เรื่องภาษาอังกฤษ พูดได้แบบพ่นไฟแล้บบบจ้า ไม่ต้องห่วง “ประถมได้ 4.00 ตลอดทุกเทอมค่ะ พอเข้าระดับมัธยมศึกษาที่เตรียมอุดม แซนดี้เริ่มมีเพื่อน มีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำเยอะ อย่างแสดงละครเวที เกรดเฉลี่ยจึงตกมาอยู่ที่ 3.90 สำหรับมัธยมต้น และ 3.80 สำหรับมัธยมปลาย แต่แซนดี้สบายๆ ค่า เพราะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และการสื่อสารด้านภาษาอังกฤษก็ดีถึงดีมากค่ะ ส่วนที่บ้านไม่เคยว่าอะไรเลย จะทำอะไรครอบครัวสนับสนุนทุกอย่าง ครอบครัวไม่เคยบอกว่าต้องเป็นหมอ ต้องเป็นแบบนู้นแบบนี้ เรียกว่าไม่เคยกดดันเลย จุดตรงนี้แซนดี้คิดว่ามีส่วนสำคัญเหมือนกัน ทำให้เราไม่เครียด พอเราไม่เครียดเราก็จะไม่ไประบายออก โดยการทำสิ่งไม่ดีค่ะ”

ไม่เคยเรียนพิเศษ ไม่เคยกวดวิชา

             ในส่วนของการเรียน มาถึงช่วงมัธยมที่มีความแข่งขันสูง พ่อแม่ยอมทุ่มส่งลูกให้ได้ติวได้กวดวิชากับอาจารย์ชื่อดังแขนงต่างๆ หากแต่น้องแซนดี้บอก ไม่ค่ะ ไม่ได้แอ้มเงินพ่อแม่หนูหรอก หึหึหึ “ไม่เคยเรียนพิเศษ ไม่เคยกวดวิชาเลย กลับบ้านมาก็ไม่เคยอ่านหนังสือด้วยค่า ส่วนหนึ่งเพราะแซนดี้เป็นคนหัวไว เรียนรู้ได้เร็ว และแซนดี้จะตั้งใจฟัง ตั้งใจเรียนตั้งแต่อยู่ในห้องเรียน ถ้าไม่เข้าใจจะถามอาจาย์เลยค่ะ”

เพื่อนรักทุกคน แย่งกันนั่งใกล้เวลาสอบ

             เห็นเรียนเก่งๆ แบบนี้ น้องแซนดี้กลับไม่มีเพื่อนคนไหนอิจฉาเลย แถมเธอยังเป็นที่รักของเพื่อนทุกคนในห้อง “เพื่อนรักแซนดี้มากๆค่ะ แต่รักเวลาสอบบบนะคะ (หัวเราะ) ถ้าอาจารย์ไม่บังคับให้นั่งตามเลขที่ เพื่อนๆ จะแย่งกันนั่งใกล้แซนดี้ อันนี้ไม่อยากให้เอาเป็นแบบอย่าง และถ้าเพื่อนคนไหนขอความช่วยเหลือเรื่องเรียน แซนดี้จะไม่เกี่ยงเลยค่ะถ้าเราช่วยได้”

เคล็ดลับถึงน้องๆ ที่สนใจเรียนโปรแกรม EP หรือเรียภาษาอังกฤษ

             “ภาษาอังกฤษคำศัพท์มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการท่องจำเพียงอย่างเดียว เราต้องเอามาใช้ แล้ววิธีใช้ของคำศัพท์ที่ดีที่สุดคือการเอามาเขียน เพราะเวลาเราเอามาเขียน เราจะได้รู้ความหมายทั้งประโยค เพราะอย่างศัพท์บางคำความหมายอีกอย่างหนึ่ง แต่เมื่อมันมาอยู่ในประโยค มันก็เปลี่ยนความหมายของประโยคเป็นอีกอย่างหนึ่ง ฉะนั้นภาษาอังกฤษอยู่ที่การใช้จริง ไม่ว่าจะเป็นการพูด ฟัง อ่าน เขียน อย่างตัวแซนดี้เองเรื่องการฟัง แซนดี้มีเคล็ดลับคือการฟังเพลงสากล ที่ได้สำเนียงมาคือฟังจริงร้องตามเสียงจริง หูเราก็จะไปโทนนั้นจริงๆ หรือการดูภาพยนตร์ต่างประเทศ พยายามอย่าอ่านซับไตเติ้ล จับใจความเอา รู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่งไม่เป็นไร ฝึกฝนต่อไป ก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ เองค่า”

             รู้เคล็ดลับพิชิตการเรียนโปรแกรม EP แบบฉบับแซนดี้กันไปแล้ว น้องๆ ที่มุ่งมั่นสายนี้ขอให้มีความพยายาม มานะอดทน ยิ่งถ้าเราหัวไม่ดี ก็ต้องมีความขยันอีกเท่าตัว รับรองว่าเก่งภาษาอังกฤษแบบพี่แซนดี้แน่นอน